“ วิธีเลือกวัสดุพัดลมตามประเภทงานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ”

1. เหล็ก (Steel)

•  ข้อดี: แข็งแรง ทนทาน รับแรงกระแทกได้ดี
•  ข้อเสีย: เสี่ยงเกิดสนิม ต้องมีการป้องกัน
•  เหมาะกับงาน: 
  • งานทั่วไปใยพื้นที่แห้ง
  • งานที่ต้องการความแข็งแรงสูงและราคาประหยัด

2. สังกะสี (กัลวาไนซ์ / Galvanized Steel)

•  ข้อดี: เหล็กชุบเคลือบสังกะสี ป้องกันสนิมได้ดีขึ้น
•  ข้อเสีย: หากชั้นเคลือบสึกหรอ อาจเกิดสนิมได้
•  เหมาะกับงาน:
  • งานกลางแจ้งหรือพื้นที่มีความชื้นปานกลาง
  • งานโครงสร้างที่ต้องการความทนทานและราคาประหยัดกว่าเหล็ก และสแตนเลส

3. อลูมิเนียม (Aluminum)

•  ข้อดี: น้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม ทนความร้อนได้ดี
•  ข้อเสีย: ความแข็งแรงน้อยกว่าเหล็ก
•  เหมาะกับงาน:
  • งานในสภาพแวดล้อมทั่วไปที่ไม่มีสารเคมีรุนแรง

4. สแตนเลส (Stainless Steel)

•  ข้อดี: ทนการกัดกร่อนสูง ไม่เป็นสนิม
•  ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าวัสดุอื่น ๆ
•  เหมาะกับงาน:
  • โรงงานอาหาร เครื่องดื่ม ยา
  • งานที่มีความชื้นสูงหรือสัมผัสสารเคมีกัดกร่อน
  • งานที่ต้องการความทนทานสูงและบำรุงรักษาง่าย

5. ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass)

•  ข้อดี: น้ำหนักเบา ต้านทานสารเคมีและความชื้นได้ดี
•  ข้อเสีย: แข็งแรงน้อยกว่าโลหะ อาจแตกได้หากถูกแรงกระแทก
•  เหมาะกับงาน:
  • งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีรุนแรง
  • งานที่ต้องการวัสดุน้ำหนักเบาและทนสารเคมี
  • งานที่ต้องการลดเสียงรบกวนและสั่นสะเทือน